วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การจัดเก็บกก

เมื่อตากกกจนแห้งสนิทดีแล้ว นำกกขนาดเดียวกันประมาณ 8-12 มัด มากองรวมกันแล้วใช้เชือกหรือไม้ตอกมัดเป็นมัดใหญ่ โดยกองหนึ่งอาจมัดได้ 4-5 ช่วง จนกระทั่งหมดจำนวนกก แล้วจึงนำไปจัดเก็บไว้บริเวณที่แห้ง ไม่มีความชื้น พร้อมที่จะนำไปใช้ทอเสื่อหรือย้อมสีกกต่อไป

การตากกก

เมื่อจักกกจนหมดตามจำนวนกกที่ตัดมาแล้ว มัดกกขนาดเท่ากำมือโดยใช้ไม้ตอกหรือยางรัด  นำมาตากแดดให้แห้ง  โดยคลี่กกออกให้เป็นลักษณะรูปใบพัด  ตากในบริเวณที่แดดจัดๆ แล้วกลับกกขึ้นให้แห้งทั่วถึง  ตากไว้ประมาณ 2-3 วัน เมื่อแห้งสนิทแล้วจึงนำไปจัดเก็บต่อไป

การคัดขนาดกก

 ในการคัดขนาดกกนั้นจะทำการคัดแยกกกที่มีขนาดเท่ากันมากองรวมกันไว้ตามขนาดด่างๆ โดยการกำยอดกกไว้แล้วสลัดให้กกที่สั้นกว่าหลุด   ออกมาแล้วเก็บรวบรวมกกที่สลัดหลุดออกมารวมกันใหม่ แล้วสลัดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด ซึ่งจะได้กกขนาดต่างกัน
      หลังจากนั้นจึงตัดยอดกกส่วนที่เป็นดอกทิ้งไป เหลือไว้เฉพาะส่วนของลำต้น   เตรียมนำไปจักกก

ผลิตภัณฑ์เสื่อกกแปรรูป

เรื่องราวของผลิตภัณฑ์ (Product Story)
จากสภาพทางภูมิศาสตร์ ลักษณะดิน และการประกอบอาชีพทำนานั้น ในอดีตครั้งเพิ่งเริ่มก่อตั้งชุมชนชาวบ้านเพียง
อย่างเดียว แต่ในพื้นที่นา พื้นที่ริมคลอง หรือที่ราบลุ่ม มีน้ำขัง กลับมีต้นกกเจริญงอกงามโดยทั่วไปหลังฤดูเก็บเกี่ยว
ชาวบ้านสร้งจึงคิดนำต้นกกที่แห้งที่นำมาใช้รองเพื่อประโยชน์อื่นมาสานเป็นผืนปูรองจนได้รับความนิยม จึงพัฒนา
จนเป็นการทอเช่นเดียวกับการทอเส้นใยอื่น จากจุดเริ่มต้นภูมิปัญญาการทอเสื่อกกของชาวบ้านสร้าง ได้ถูกถ่ายทอด
จากรุ่นสู่รุ่น ค่อยๆ พัฒนาตลอดมา จากวิธีการทอ การใช้สี ลักษณะ ลวดลาย จนถึงการคัดเลือกสายพันธุ์ของต้นกก
จากเสื่อผืน สู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลายกหลาย "เสื่อกกบ้านสร้าง" จึงเป็นเหมือนสัญญลักษณ์ของอำเภอบ้าน
สร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ที่สื่อโดยนัยให้เห็นถึงวิถีที่เรียบง่าย ความอุตสาหะหมั่นเพียร ความละเอียดอ่อน อ่อนโยน
จนต่อมาเสื่อกกบ้านสร้างได้ถูกบรรจุลงในคำขวัญของอำเภอ ดังนี้ "หลวงพ่อจาดเลื่องลือชื่อ นามระบือกุ้งใหญ่ เสื่อ
กกเสริมรายได้ ทุ่งนาข้าวเรืองรอง แผ่นดินทองบ้านสร้าง"